ระดับความหนืดของน้ำ สำคัญอย่างไรต่อภาวะกลืนลำบาก

You are here:

ภาวะกลืนลำบาก เป็นภาวะที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดความผิดปกติในการกลืน ทำให้ไม่สามารถกลืนได้ หรือกลืนได้ช้าและลำบาก อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ ภาวะสำลัก ภาวะทุพโภชนาการ ภาวะขาดน้ำ

ซึ่งการลดปัจจัยเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว จึงควรได้รับการฟื้นฟูการกลืนร่วมกับการดัดแปลงเนื้อสัมผัสของอาหารและการปรับระดับความหนืดของน้ำ ให้เหมาะสมกับความสามารถของร่างกายควบคู่ไปกับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยผู้เชี่ยวชาญหรือนักกิจกรรมบำบัด

“การปรับระดับความหนืดของน้ำ ช่วยชะลอไม่ให้ของเหลอไหลเข้าสู่ระยะคอหอยเร็วเกินไป”

อุปกรณ์ที่ช่วยปรับระดับความหนืดของน้ำคือ สารเพิ่มความหนืดในเครื่องดื่ม (Thickener) วิธีการผสมผงหนืดให้อ่านฉลากและคำแนะนำ สามารถปรับระดับความหนืดของน้ำและตรวจสอบระดับได้ โดยใช้ไซริงค์ขนาด 10มล.และนาฬิกาจับเวลา

วิธีทำ
  1. เติมน้ำ 200 มล. ผสมผงหนืดตามอัตราส่วนที่กำหนด คนให้ละลาย
  2. ปิดปากรูไซริงค์ แล้วนำน้ำที่ผสมจนเข้ากันแล้วใส่ในไซริงค์ ปริมาณ 10 มล. 
  3. จับเวลา 10 วินาที พร้อมปล่อยน้ำออก เมื่อครบเวลาให้รีบปิดปากรูและดูปริมาณคงเหลือ

สามารถปรับระดับความหนืดของน้ำได้ 4 ระดับ ได้แก่

ปกติ (น้ำ 200 มล.)

น้ำคงเหลือ 0-1 มล.

ข้นหนืดน้อย (น้ำ 200 มล./ผงหนืด 1 ช้อน)

น้ำคงเหลือ 1-4 มล. เช่น นม น้ำผลไม้

ข้นหนืดปานกลาง (น้ำ 200 มล.ต่อผงหนืด 2 ช้อน)

น้ำคงเหลือ 4-8 มล. เช่น ซุปครีม

ข้นหนืดมาก (น้ำ 200 มล.ต่อผงหนืด 4 ช้อน)

น้ำคงเหลือ 8-10 มล. ช่น โยเกิร์ตแบบดื่ม ไอศครีม

หมายเหตุ : มีระดับข้นหนืดอย่างมากใกล้เคียงกับเนื้อสัมผัสอาหาร หากทดสอบปริมาณน้ำที่ไหลจะคงเดิม 10 มล. จึงไม่ได้รวมกับข้อมูลข้างต้น

ข้อควรระวังสำหรับการใช้สารเพิ่มความหนืดในเครื่องดื่ม
  1. เมื่อผสมน้ำกับผงหนืดไปแล้ว อยากปรับเพิ่มความหนืดมากขึ้น ไม่แนะนำให้เทผงหนืดซ้ำอีกรอบ เพราะจะทำให้ผงหนืดละลายตัวได้ไม่ดี จับตัวเป็นก้อน แนะนำให้ชงแก้วใหม่
  2. ผงหนืดบางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมที่ผู้ใช้งานแพ้ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
  3. ระดับความหนืดของน้ำควรเหมาะสมกับความสามารถของผู้ป่วย การปรับเพิ่มหรือลดแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือนักกิจกรรมบำบัด เพื่อความปลอดภัยในการกลืน

แชร์บทความ

บทความอื่นๆ